X. อาณาจักรมหาสุริยาแห่งแปซิฟิค (Aroi Sun Kingdom of the Pacific )
หากเอ่ยคำว่า Aroi หลายๆคนคงไม่คุ้น แต่ถ้าพูดถึงเกาะอีสเตอร์นี่รับรองว่าต้องคุ้นกันแน่ๆ เพราะจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีใครให้คำตอบได้ว่า รูปสลักโมอายอันลือชื่อบนเกาะนี้มีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่ อาณาจักร Aroi นั้นไม่เคยถูกกล่าวถึงในวงการประวัติศาสตร์สากลเลยครับ เนื่องด้วยหลักฐานที่ออกจะเลื่อนลอย การขาดโบราณวัตถุหรือโบราณสถานต่างๆมาบ่งชี้ ดังนั้น อาณาจักรดังกล่าวจึงเป็นเพียงตำนานที่เล่าขานกันอย่างแพร่หลายในแถบหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิคเท่านั้น เชื่อกันว่าเมื่ออาณาจักรมูล่มสลายลงราว 24,000 ปีก่อน เหล่าทายาทแห่งมูได้กระจัดกระจายออกตั้งรกรากกันทั่วโลก และจุดหนึ่งคือหมู่เกาะในบริเวณนี้นั่นเอง เรื่องราวของอาณาจักรสุริยาแห่งนี้ถูกเล่าขานสืบเนื่องกันมาในชนชาติ โพลินีเซีย, มาลานีเซีย, และไมโครนิเซีย โดยเฉพาะผู้เฒ่าผู้แก่ชาวโพลินีเซียนที่ให้ข้อมูลกับนักมานุษยวิทยาถึงอาณาจักรเก่าแก่ ซึ่งปกครองแถบนั้นมาหลายพันปีก่อนหน้าที่ชาวยุโรปคนใดจะมาถึง ซึ่งก็ท่าจะมีเค้าครับ เพราะนักสำรวจเองก็ได้พบปิระมิดตามเกาะเล็กเกาะน้อยเป็นจำนวนมาก บางเกาะมีวิหารรูปร่างประหลาดตั้งอยู่ บางแห่งที่พิสูจน์อายุด้วยคาร์บอน 14 แล้วพบว่ามีอายุย้อนหลังไปหกถึงเจ็ดพันปี เทคนิคที่ใช้ในการสร้างก็เรียกได้ว่าไม่น้อยหน้าชาวอินคาเหมือนกัน สิ่งที่น่าสังเกตประการหนึ่งคือ ชาวเกาะโบราณพวกนี้นิยมสร้างถนนขนาดใหญ่จากกลางเกาะมาสู่ชายหาดด้านใดด้านหนึ่ง จากนั้นก็สร้างรูปสลักมหึมาตามขอบถนนหรือไม่ก็บริเวณชายฝั่ง เมื่อเจาะลึกลงไปอีกนิด นักโบราณคดีพบว่า ชาวโพลินีเซียนในนิวซีแลนด์ เกาะอีสเตอร์ ฮาวาย และตาฮิติ ล้วนมีตำนานเกี่ยวกับมนุษย์ปักษีที่สามารถเหินฟ้าเดินทางไปมาระหว่างเกาะหนึ่งไปยังอีกเกาะหนึ่งได้
หากเอ่ยคำว่า Aroi หลายๆคนคงไม่คุ้น แต่ถ้าพูดถึงเกาะอีสเตอร์นี่รับรองว่าต้องคุ้นกันแน่ๆ เพราะจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีใครให้คำตอบได้ว่า รูปสลักโมอายอันลือชื่อบนเกาะนี้มีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่ อาณาจักร Aroi นั้นไม่เคยถูกกล่าวถึงในวงการประวัติศาสตร์สากลเลยครับ เนื่องด้วยหลักฐานที่ออกจะเลื่อนลอย การขาดโบราณวัตถุหรือโบราณสถานต่างๆมาบ่งชี้ ดังนั้น อาณาจักรดังกล่าวจึงเป็นเพียงตำนานที่เล่าขานกันอย่างแพร่หลายในแถบหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิคเท่านั้น เชื่อกันว่าเมื่ออาณาจักรมูล่มสลายลงราว 24,000 ปีก่อน เหล่าทายาทแห่งมูได้กระจัดกระจายออกตั้งรกรากกันทั่วโลก และจุดหนึ่งคือหมู่เกาะในบริเวณนี้นั่นเอง เรื่องราวของอาณาจักรสุริยาแห่งนี้ถูกเล่าขานสืบเนื่องกันมาในชนชาติ โพลินีเซีย, มาลานีเซีย, และไมโครนิเซีย โดยเฉพาะผู้เฒ่าผู้แก่ชาวโพลินีเซียนที่ให้ข้อมูลกับนักมานุษยวิทยาถึงอาณาจักรเก่าแก่ ซึ่งปกครองแถบนั้นมาหลายพันปีก่อนหน้าที่ชาวยุโรปคนใดจะมาถึง ซึ่งก็ท่าจะมีเค้าครับ เพราะนักสำรวจเองก็ได้พบปิระมิดตามเกาะเล็กเกาะน้อยเป็นจำนวนมาก บางเกาะมีวิหารรูปร่างประหลาดตั้งอยู่ บางแห่งที่พิสูจน์อายุด้วยคาร์บอน 14 แล้วพบว่ามีอายุย้อนหลังไปหกถึงเจ็ดพันปี เทคนิคที่ใช้ในการสร้างก็เรียกได้ว่าไม่น้อยหน้าชาวอินคาเหมือนกัน สิ่งที่น่าสังเกตประการหนึ่งคือ ชาวเกาะโบราณพวกนี้นิยมสร้างถนนขนาดใหญ่จากกลางเกาะมาสู่ชายหาดด้านใดด้านหนึ่ง จากนั้นก็สร้างรูปสลักมหึมาตามขอบถนนหรือไม่ก็บริเวณชายฝั่ง เมื่อเจาะลึกลงไปอีกนิด นักโบราณคดีพบว่า ชาวโพลินีเซียนในนิวซีแลนด์ เกาะอีสเตอร์ ฮาวาย และตาฮิติ ล้วนมีตำนานเกี่ยวกับมนุษย์ปักษีที่สามารถเหินฟ้าเดินทางไปมาระหว่างเกาะหนึ่งไปยังอีกเกาะหนึ่งได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น